Pi STOCK UPDATE : KSL (BUY : FAIR PRICE Bt4.80)
" 2Q23 รายได้ดี แต่ต้นทุนก็สูงทำกำไรไม่โตมาก "
เรามองว่า KSL จะได้รับผลดีจากราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ทรงตัวในระดับสูงในช่วงที่ผ่านมาหลังจากได้รับแรงหนุนจากการคาดหมายถึงภาวะผลผลิตส่วนเกินที่จะลดลงเหลือเพียง 0.2 ล้านตันน้ำตาลในปี 23/24 จากระดับ 3.5 ตันน้ำตาลในปี 22/23 และจะทำให้ราคาขายของ KSL ในปี 24 ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งจะมาชดเชยผลกระทบจากปริมาณผลผลิตอ้อยในไทยที่คาดว่าจะลดลงจากปี 23 ประมาณ 20% จากปัญหาภัยแล้ง อย่างไรก็ตามด้วยราคาน้ำตาลในตลาดโลกมีความผันผวนมาก เราจึงยังคงคำแนะนำเพียง “ซื้อเก็งกำไร” เท่านั้นโดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 4.8 บาท (14XPER’23E)
น้ำตาลโลกปีหน้าเกินดุลเล็กน้อย
• ราคาน้ำตาลในตลาดโลกช่วงที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นจนยืนเหนือระดับ 25-26 เซ็นต์/ปอนด์ เกิดจากการคาดหมายถึงน้ำตาลโลกในฤดูกาลผลิต 23/24 ที่จะมีปริมาณผลผลิตส่วนเกินเหลือเพียง 0.2 ล้านตันน้ำตาล จากที่เกินดุลกว่า 3.5 ตันน้ำตาลในปี 22/23 สาเหตุหลักเกิดจากปริมาณผลผลิตรวมลดลง 0.65%YoY เพราะผลผลิตจากไทยที่คาดว่าจะมีปริมาณน้ำตาลลดลงถึง 21% เหลือเพียง 8.8 ล้านตันน้ำตาล เพราะผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง แม้ว่าปริมาณผลผลิตจากบราซิลคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากว่า 10% ก็ตาม ส่วนในแง่การบริโภคเพิ่มขึ้นเพียง 1.1%YoY
• โดย KSL มองกรอบราคาน้ำตาลโลกมีแนวรับที่ระดับ 24 เซ็นต์/ปอนด์ มีแรงหนุนจากผลผลิตจากเอเชียที่คาดว่าจะลดลง ส่วนแรงกดดันมาจากผลผลิตจากบราซิล
**FY3Q23 ยอดขายยังดี **
• แนวโน้ม FY3Q23 ในแง่ยอดขายคาดว่าจะเห็นการเติบโตได้จากปีก่อนหลังยังมีสต๊อกรอขายกว่า 450,000 ตัน รวมถึงราคาที่รับรู้จะเป็นราคาใหม่แล้ว ส่วนเมื่อทียบกับ FY2Q23 คาดว่ากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นหลังปรับต้นทุนค่าอ้อยไปแล้วแล้วตอน FY2Q23
คงกำไรปีนีไว้เท่าเดิม ส่วนปีหน้าอ้อยที่ลดถูกชดเชยด้วยราคา
• เราคงประมาณการกำไรสุทธิในปี 23 ไว้เท่าเดิมที่ 1,526 ลบ. (+15%YoY) แม้ว่ากำไรสุทธิในช่วง FY1H23 จะคิดเป็นสัดส่วนกว่า 63% ของกำไรทั้งปี เพราะในช่วง FY4Q23 จะเป็นช่วง Low Seasons ของธุรกิจ
• สำหรับปี 24 ด้วยผลผลิตอ้อยของไทยมีแนวโน้มลดลง ทำให้ KSL ประเมินว่าจะมีอ้อยเข้าหีบเพียง 5 ล้านตันอ้อยลดลงจาก 6.6 ล้านตันอ้อยในปี 23 แต่ด้วยราคาในตลาดโลกที่ยืนสูงทำให้ราคาขายในปี 24 มีโอกาสปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 25 เซ็นต์/ปอนด์ จากระดับ 20.4 เซ็นต์/ปอนด์ในปี 23 ได้จะชดเชยปริมาณอ้อยเข้าหีบที่ลดลงได้ และทำให้เรายังคงมองว่ารายได้และกำไรสุทธิยังทรงตัวในระดับสูงได้อยู่ 18,034 ลบ. (+1%YoY) และ 1,578 ลบ. (+3%YoY) ตามลำดับ
• สำหรับคำแนะนำการลงทุนเรายังคงคำแนะนำ “เก็งกำไร” โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมที่ 4.8 บาท (14XPER’23E)