Pi STOCK UPDATE : IVL (BUY : FAIR PRICE Bt37.00)

Published
15 August 2023
Share this article:

" ฟื้นจากจุดต่ำแม้มีปัจจัยกดดัน "

เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" แม้ลดมูลค่าพื้นฐานลง 14% เป็น 37.00 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับประมาณการกำไร ทั้งนี้ กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 411 ล้านบาท (-98% YoY, -60% QoQ) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท ลดลง 4% QoQ เพราะอัตรากำไรในธุรกิจออกไซด์และอนุพันธ์แบบบูรณาการ (IOD) และธุรกิจเส้นใยที่อ่อนแอ และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น เราเล็งเห็นปัจจัยรบกวนจากสภาวะดอกเบี้ยสูง การระบายสต็อก และเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นช้า ซึ่งจะยังกดดันผลประกอบการของ IVL ในครึ่งหลังปี 2023 อย่างต่อเนื่อง แต่ถ้าพิจารณาเรื่องยอดขายที่ฟื้นขึ้นและอัตรากำไรผลิตภัณฑ์ที่ปรับดุลจากจุดต่ำร่วมด้วย ก็คาดว่ากำไรไตรมาส 3-4/23 จะฟื้นตัวจากจุดต่ำในไตรมาส 2/23 ขึ้นมาได้

กำไรไตรมาส 2/23 ต่ำกว่าตลาดคาด

• กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 411 ล้านบาท (-98% YoY, -60% QoQ) ต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรปกติจะอยู่ที่ 2.0 พันล้านบาท (-85% YoY, -4% QoQ) ที่ลดลง YoY เพราะผลการดำเนินงานที่อ่อนแอจากทุกกลุ่มธุรกิจ (CPET, IOD, เส้นใย) เพราะยอดขายและอัตรากำไรที่ลดลงจากสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย ส่วนกำไรที่หดตัว QoQ เป็นเพราะอัตรากำไรในธุรกิจ IOD และเส้นใยที่อ่อนแอ และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น

• EBITDA ของกลุ่มบริษัทปรับดีขึ้นเล็กน้อย 8% QoQ เป็น 1.25 หมื่นล้านบาท หนุนจากธุรกิจ PET ในสหรัฐฯ ที่ยืดหยุ่นดี แต่ถูกหักลบส่วนหนึ่งจากผลประกอบการธุรกิจ IOD ปลายน้ำที่อ่อนแอ ด้านปริมาณขายโต 4% QoQ หนุนจากธุรกิจ PET และ EG ในสหรัฐฯ

ฟื้นตัวท่ามกลางสภาวะที่ท้าทาย

แม้กำไรไตรมาส 2/23 จะอ่อนแอ แต่ปริมาณขายสามารถปรับขึ้นมาได้ QoQ ขณะที่อัตราการดำเนินงานก็ปรับดีขึ้นเป็น 77% จาก 74% ในไตรมาส 1/23 คาดการณ์ว่าปริมาณขายในครึ่งหลังปี 2023 จะโตต่อเนื่อง 8% HoH (6 แสนตัน) หนุนจากกำลังการผลิตเพิ่มเติมในส่วนของ CPET และเส้นใย ขณะที่คาดว่า 1) ผลกระทบจากการลดสต็อกที่จะสิ้นสุดลงในตลาดหลักส่วนใหญ่ของ IVL 2) ราคาพลังงานที่ลดลง และ 3) ประสิทธิภาพการผลิตที่ดีขึ้นจะช่วยหนุนอัตรากำไรขึ้นในครึ่งหลังปี 2023 - 2024

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2023-24 ลง 64% และ 40%

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2023-24 ลง 64% และ 40% เป็น 9.0 พันล้านบาท และ 1.70 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ สืบเนื่องจากการปรับสมมติฐานปริมาณขายและอัตรากำไรลง โดยปรับลดปริมาณขายลงเป็น 14.7 ล้านคัน (-8 แสนตัน) ในปี 2023 และ 15.5 ล้านคัน (-5 แสนตัน) ในปี 2024 หลังจากที่ปรับลดอัตราการดำเนินงานในธุรกิจ CPET, IOD และเส้นใยลง ขณะที่ปรับลดสมมติฐาน EBITDA margin ลง US$10-20/ตัน สำหรับปี 2023-24 เพื่อสะท้อนถึงแรงกดดันต่ออัตรากำไรที่บริษัทเผชิญในทุกหน่วยธุรกิจ

คงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ลดมูลค่าพื้นฐานลงเป็น 37.00 บาท

เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ลดมูลค่าพื้นฐานลง 14% เป็น 37.00 บาท (จาก 43.00 บาท) เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรลง มูลค่าพื้นฐานของเราอิง 1.1x PBV’23E หรือที่ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี ขณะที่เราเล็งเห็นปัจจัยรบกวนจากดอกเบี้ยที่สูง การลดสต็อก และเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้า ซึ่งจะกดดันผลประกอบการของ IVL ในครึ่งหลังปี 2023 อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาเรื่องยอดขายที่ฟื้นขึ้นและอัตรากำไรผลิตภัณฑ์ที่ปรับดุลจากจุดต่ำร่วมด้วย ก็คาดว่ากำไรไตรมาส 3-4/23 จะฟื้นตัวจากจุดต่ำในไตรมาส 2/23 ขึ้นมาได้