Pi STOCK UPDATE : KBANK (BUY : FAIR PRICE Bt154.00)
" ผลประกอบการพลิกมาโตในปี 2023 "
เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 154 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท (+2% YoY, +2% QoQ) ขณะที่เรากังวลว่า KBANK อาจต้องคงค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญปี 2023 ไว้ในระดับสูงเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุล แต่มองว่าจะลดลงในปี 2024-25 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของกำไรและอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ในอนาคตได้ เราคาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาโต 12% ในปี 2023 หลังหดตัวไป 6% ในปี 2022 หุ้นยังมีมูลค่าที่น่าดึงดูดด้วยการซื้อขายที่ 0.6x PBV’23E หรือ -1.25SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี ซึ่งสะท้อนความกังวลเรื่องคุณภาพสินเชื่อจากลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ 1 ราย และกลยุทธ์การระบายงบดุลที่อาจทำให้การตั้งสำรองหนี้ฯ ยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปในปี 2023
การประชุมนักวิเคราะห์
• การเติบโตของสินเชื่อปี 2023 จะต่ำกว่าตัวเลขเป้าหมายผู้บริหารที่ 5%-7% เพราะการเติบโตของสินเชื่อที่เบาบางในครึ่งแรกปี 2023 บวกกับมาตรการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลที่เข้มงวด และการระบายงบดุล
• ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะยังอยู่ในระดับสูง แต่ไม่เกิน 210bp ในปี 2023 สืบเนื่องจากคุณภาพสินเชื่อที่ลดลงและการระบายงบดุล โดยค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะกลับสู่ระดับปกติที่ 140-160bps ในครึ่งหลังปี 2024 และปี 2025 ขณะที่คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ในปี 2023 จะสอดคล้องกับตัวเลขของผู้บริหารที่ <3.25%
• แม้รายได้ค่าธรรมเนียมจะปรับดีขึ้นในครึ่งหลังปี 2023 หากเทียบกับครึ่งปีแรก แต่รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิทั้งปีจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ทรงตัวในปี 2023 ได้ ในด้านอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (CIR) จะสอดคล้องกับตัวเลขระดับต่ำของผู้บริหารที่ 40% กลาง ๆ
• ในแง่บวกคาดว่า NIM จะโตต่อเนื่องในครึ่งหลังปี 2023 ด้วยแรงหนุนจากการขึ้นดอเบี้ย โดยประเมินว่า NIM เฉลี่ยในปี 2023 จะออกมาสูงกว่าแนวทางผู้บริหารที่ 3.3%-3.45%
กำไรยังมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นตามเดิม
• เราปรับประมาณการกำไรเพื่อสะท้อนถึงการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (non-NII) ที่ต่ำคาด โดยปรับลดกำไรปี 2023-25 ลง 2%/3%/5% ตามลำดับ แต่ยังคาดว่ากำไรจะโต 12% ในปี 2023 และ 13%/16% ในปี 2024-25
• แม้จะปรับลดประมาณการกำไรลง แต่เราคาดว่ากำไรสุทธิในครึ่งหลังปี 2023 จะโต 32% YoY จาก NIM ที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง หลังจาก KBANK ได้ตั้งสำรองหนี้ฯ ไปมากแล้วในไตรมาส 4/222
คงคำแนะนำ "ซื้อ" แต่ลดมูลค่าพื้นฐานลงเป็น 154 บาท
เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานเป็น 154 บาท (จาก 160 บาท) เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรและ ROE ลง มูลค่าพื้นฐานของเราคำนวณด้วยวิธี GGM model (ROE 8%, TG 2%) อิง 0.7x PBV’23E หรือ
-1.0SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี คำแนะนำซื้อสะท้อน 1) แนวโน้มการเติบโตของกำไรที่มั่นคงขึ้นในปี 2023-24 2) ROE ขาขึ้น 3) ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่อาจลดลงหลังจากระบายงบดุลเสร็จในปี 2024-25 และ 4) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง