Pi STOCK UPDATE : AH (BUY : FAIR PRICE Bt50.00)

Published
30 August 2023
Share this article:

" อนาคตยังดูดี หลังรถ EV ทยอยเข้ามา "

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ AH เช่นเดิม หลังจากแนวโน้มผลประกอบการในอนาคตยังเห็นการเติบโตได้ ไม่ว่าจะเป็นจากคำสั่งซื้อในลูกค้าปัจจุบัน และลูกค้ากลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่ทยอยมาเปิดโรงงานในประเทศไทย รวมถึงรายได้จาก AVEE ที่ AH ร่วมลงทุนจะเริ่มเข้ามาในช่วง 3Q23 ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการงวด 3Q23 เห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ทั้งเมื่อเทียบกับ 3Q22 และ 2Q23 ขณะที่ผลดีจากการร่วมลงทุนใน PUREM จะเริ่มเห็นตั้งแต่ 4Q23 เป็นต้นไปเช่นกันหลังโรงงานที่มาเลเซียแล้วเสร็จ โดยเราประเมินมูลค่าเหมาะสมอยู่ที่ 50 บาท (10XPER’23E)

**แนวโน้ม 3Q23 รายได้ยังโตได้ต่อ **

• วานนี้เราได้มีโอกาสประชุมกับผู้บริหารถึงภาพรวมของ AH ในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยในแง่รายได้ AH คาดว่าจะยังเห็นการเติบโตตได้ต่อโดยเฉพาะจากบริษัทที่ร่วมลงทุนใหม่อย่าง AVEE ตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมามูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท (นับรวม 2H23 ส่วนปี 24 คาดรายได้จากบริษัทดังกล่าวถึง 1,500 ล้านบาท) ขณะที่ในแง่ของส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดว่าจะดีขึ้นในช่วง 4Q23 หลังจากบริษัทร่วมทุนอย่าง พูเรม อาปิโก (AH ถือหุ้น 49%) ก่อสร้างโรงงานแห่งแรกที่มาเลเซียแล้วเสร็จและเริ่มการผลิตได้ในเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งมาช่วยชดเชยส่วนแบ่งจากฮุนไดที่ AH ไม่ได้รับเข้ามาตั้งแต่ 2Q23 ที่ผ่านมา

**EV ที่มาไทย AH มีโอกาสได้คำสั่งซื้อทุกราย **

• สำหรับการเข้ามาตั้งโรงงานของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน เพื่อเป็นไปตามเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการรับเงินอุดหนุนราคาขายนั้นทาง AH แจ้งว่าด้วยการที่มีโรงงานอยู่ในประเทศจีนอยู่แล้ว ทำให้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ผลิตทุกรายที่จะเข้ามา รวมถึงการที่ปัจจุบันมีประสบการณ์ในการผลิตชิ้นส่วนให้กับ Vinfast อยู่แล้ว 2 รุ่น ทำให้มีโอกาสที่จะได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มเติมได้

• ส่วนการผลิตรถยนต์ EV ของทาง ISUZU ที่มีการประกาศจะเริ่มผลิตในปี 2025 นั้น AH แจ้งว่าได้รับคำซื้อเบื้องต้นมาแล้ว แสดงให้เห็นว่าการเข้ามาของรถพลังงานไฟฟ้า ไม่กระทบกับทาง AH มากอย่างที่เคยกังวลกัน

**คงกำไรทั้งปีไว้เท่าเดิม โดยกำไรปกติเติบโตได้เล็กน้อยจากปีก่อน **

• กำไรปกติในช่วง 1H23 คิดเป็นสัดส่วน 51% ของกำไรทั้งปีที่เราประเมินไว้ที่ 1,772 ล้านบาท ซึ่งถ้ามองเฉพาะกำไรปกติจะเพิ่มขึ้น 1%YoY (ส่วนกำไรสุทธิจะลดลง 3%YoY) ทั้งนี้กำไรที่อาจจะเห็นการเติบโตไม่มากนักส่วนหนึ่งเป็นผลจากการมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในฮุนไดเข้ามาเพียง 1 ไตรมาสเท่านั้น (ปี 22 มีส่วนแบ่งจากฮุนไดทั้งปีกว่า 112 ล้านบาท)

• เรายังแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมด้วยปัจจัยบวกจากการเป็นผู้ประกอบการที่มีคำสั่งซื้อในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาแล้ว โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ที่ 50 บาท (10XPER’23E)