Pi STOCK UPDATE : TTB (HOLD : FAIR PRICE Bt1.85)
" คาดถึงผลงานที่คละกันในไตรมาส 3/23 "
เราคงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐานใหม่ 1.85 บาท หลังปรับปีฐานไปเป็น 2024 แม้สินเชื่อของธนาคารจะโตช้า แต่คาดว่ากำไรจะโตดี 21% YoY ในปี 2023 หนุนจากการขยายตัวของอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) และการคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี คาดการเติบโตของกำไรสุทธิจะแผ่วลงเป็น 9%/4% ในปี 2024-25 ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/23 จะโต 17.5% YoY (-4.5% QoQ) เป็น 4.4 พันล้านบาท แม้กำไรจะโตดีในปี 2023 แต่น่าจะมี upside จำกัด แนะนำ "ถือ" เพื่อรับอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูดระดับ 5.2%-5.9% ในปี 2023-25
คาดกำไรไตรมาส 3/23 โตแข็งแกร่ง YoY แต่ลดลง QoQ
• สินเชื่อสุทธิเดือน ก.ค. และ ส.ค. หดตัว 0.4% จากเดือน มิ.ย. ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดและอุปสงค์ที่เบาบางจากกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ คาดว่าการเติบโตของสินเชื่อไตรมาส 3/23 จะทรงตัว และฟื้นตัวใน
ไตรมาส 4/23 จากการใช้จ่ายภาคเอกชนที่สูงตามฤดูกาล ด้วยเหตุนี้เราจึงปรับลดประมาณการการเติบโตของสินเชื่อทั้งปี 2023 เป็น 0.5% YoY จากเดิมที่ 1.2%
• เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/23 ของ TTB จะอยู่ที่ 4.4 พันล้านบาท โต 17.5% (-4.5% QoQ) รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่สูงขึ้นจาก NIM ที่มากขึ้นคือปัจจัยหนุนต่อการเติบโต YoY ส่วนที่คาดว่ากำไรจะลดลง
QoQ มีสาเหตุจากรายได้เงินปันผลที่ลดลงและค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่สูงขึ้น
• คาดอัตราส่วนต่างหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.7% จากฐานสินเชื่อที่ลดลง แต่ยังต่ำกว่าแนวทางที่ให้ไว้ในระดับ <2.9% ขณะที่อัตราส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ลดลงเป็น
141% ในไตรมาส 3/23
**การเติบโตของกำไรจะแผ่วลงในปี 2024-25 **
• แม้คุณภาพสินเชื่อของ TTB ยังยืดหยุ่นดี แต่เรายังคงสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ 125 bps สำหรับปี 2023-25 เพราะดูเหมือนว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2023 จะต่ำคาด ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเศรษฐกิจ
โลกที่ชะลอตัวลง
• TTB ได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้นเหมือนธนาคารอื่น คาดว่า NIM จะโตจาก 3% ในปี 2022 เป็น 3.2%-3.3% ในปี 2023–25 สินเชื่อโตจำกัดเพราะหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงขึ้นและเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ขณะที่คาดว่า
กำไรสุทธิจะโตดี 21% YoY ในปี 2023 จาก NIM ที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง แต่มองว่าการเติบโตของกำไรจะแผ่วลงเป็น 9%/4% ในปี 2024-25 เพราะ NIM จะโตน้อยลงในปี 2024-25
คงคำแนะนำ "ถือ" มูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 1.85 บาท
เราปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 1.85 บาท (จาก 1.70 บาท) หลังปรับปีฐานเป็น 2024 คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 8%, TG 2%) อิง 0.75x PBV’24E แม้เราจะยังไม่เห็นอานิสงส์จากการควบรวมในปี 2019 ต่อรายได้ แต่การเติบโตด้านกำไรของ TTB จะมีแรงหนุนจากการคุมต้นทุนที่ดี ปีนี้หุ้นขึ้นไปแล้ว 22% จึงเหลือ upside ในวงจำกัด แต่ด้วยอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ดีจึงแนะนำ "ถือ"