OSP (BUY : Fair Price : Bt29.00) : อัตรากำไรดีหนุนกำไรไตรมาส 3/23 ฟื้น YoY

Published
13 November 2023
Share this article:

กำไรสุทธิไตรมาส 3/23 อยู่ที่ 642 ล้านบาท ส่วนกำไรปกติอยู่ที่ 562 ล้านบาท (+132%YoY, +2%QoQ) สอดคล้องกับที่เราและ Bloomberg consensus คาด การเติบโต YoY ได้แรงหนุนจากธุรกิจภายในประเทศที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งรวมถึงกลุ่มเครื่องดื่มชูกำลังและผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล และอัตรากำไรที่ขยายตัวจากต้นทุนสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่ลดลง รวมถึงประสิทธิภาพการผลิตที่ปรับดีขึ้น ซึ่งช่วยชดเชยยอดขายธุรกิจระหว่างประเทศที่ต่ำตามฤดูกาลได้ เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 29.00 บาท

กำไรไตรมาส 3/23 ฟื้นตัว YoY และ QoQ

• หากไม่รวมรายการพิเศษจากการปรับโครงสร้างธุรกิจ กำไรปกติจะอยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท (-9%YoY, -29%QoQ) สำหรับงวด 9 เดือน คิดเป็น 75% ต่อประมาณการทั้งปี 2023 ของเรา

• รายได้ไตรมาส 3/23 ปรับเพิ่มเป็น 6.3 พันล้านบาท (+2%YoY, -6%QoQ) หนุนจากยอดขายเครื่องดื่มในไทยที่ฟื้นตัวเป็น 4.2 พันล้านบาท (+6%YoY) และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลที่โตขึ้น ซึ่ง 2 ปัจจัยนี้ช่วยชดเชยยอดขาย OEM ที่ลดลงได้

• อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขยายตัวเป็น 35.4% ในไตรมาส 3/23 จาก 29.3% ในไตรมาส 3/22 จากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ราคาขายสินค้าที่สูงขึ้น และสัดส่วนยอดขายที่ทำกำไรดี ซึ่งไปชดเชยกับปริมาณขายที่ลดลง

• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายแลบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายลดลงเป็น 25.9% ในไตรมาส 3/23 จาก 26.4% ในไตรมาส 3/22 เพราะค่าใช้จ่ายการโฆษณาและโปรโมชั่นที่ลดลง

• ตลาดเครื่องดื่มไทยโตเป็น 2.16 หมื่นล้านบาท (+3.4%YoY) ในไตรมาส 3/23 หนุนจากแคมเปญการจัดโปรโมชั่นและราคาขายปลีกที่ปรับสูงขึ้นจากผู้เล่นหลักอย่างกระทิงแดงในเดือน มี.ค. 2023 ทั้งนี้ ส่วนแบ่งของ OSP ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังไทยลดลงเหลือ 46.5% ในไตรมาส 3/23 จาก 48.2% ในไตรมาส 3/22 และ 47.5% ในไตรมาส 2/23 เพราะกลยุทธ์การออกสินค้าพรีเมี่ยม (ขวดละ 12 บาท) และแคมเปญการจัดโปรโมชั่นที่ลดลงในช่วง low season

• ตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพลดลงเหลือ 7.6 พันล้านบาท (-15.2%YoY) ในไตรมาส 3/23 เพราะอุปสงค์ที่อ่อนแอสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหลังพ้นวิกฤติ COVID-19 ส่วนแบ่งของ OSP ในตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพไทยลดลงเหลือ 43.7% ในไตรมาส 3/23 จาก 44.0% ในไตรมาส 3/22 แต่ปรับดีขึ้น QoQ จาก 42.1% ในไตรมาส 2/23 เพราะยอดขาย C-Vitt ที่ฟื้นตัวขึ้น และส่วนแบ่งตลาด Peptein ที่สูงขึ้น ทั้งนี้ C-Vitt ยังคงสถานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีที่แข็งแกร่งในระดับ 70.2% ในไตรมาส 3/23 เพิ่มจาก 67.5% ในไตรมาส 2/23 และ 65.7% ในปี 2022

• รายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลแตะยอดสูง 11 ไตรมาสที่ 647 ล้านบาท (+7%YoY) หนุนจากตลาดสบูเหลวสำหรับเด็กที่โตเป็น 1.5 พันล้านบาท (+10.2%YoY) ส่วนแบ่งตลาดของ Baby Mild เพิ่มเป็น 36.5% ในไตรมาส 3/23 จาก 32.8% ในไตรมาส 2/23

• OSP ตั้งเป้าเพิ่มรายได้จาก Peptein, Calpis Lacto, Twelve Plus, EXIT และอาหารเสริมสมุนไพร (Kilane) ขึ้นเท่าตัวเป็น 1 พันล้านบาทในช่วง 3 ปีข้างหน้า

แนะนำ "ซื้อ" พ้นจุดต่ำมาแล้ว

มูลค่าพื้นฐาน 29.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 7.6%, TG 3%) อิง 29xPE’24E ใกล้ค่าเฉลี่ย 3 ปี