Pi STOCK UPDATE : TACC (BUY : FAIR PRICE Bt6.65)

Published
28 June 2023
Share this article:

" รายได้ยังโตได้ดี "

เราคาดว่าแนวโน้มรายได้ของ TACC จะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ เป็นผลดีจากการขยายสาขาของ 7-11 ที่มีทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะที่กัมพูชา รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว นอกจากนี้ในแง่ของต้นทุนเองเริ่มมีสัญญาณบวกจากการปรับลดลงของวัตถุดิบใช้แทนความหวาน ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ในระดับ 32-33% ได้ หลังจากลดลงไป 31.6% ใน 1Q23 ส่วนการเข้าลงทุนในธุรกิจด้านอาหารเสริมและความงามคาดว่าปีนี้จะยังขาดทุน ก่อนจะพลิกมีกำไรได้ในปี 24 ทั้งนี้เราปรับกำไรทั้งปี 23 ลง 8% หลังแนวโน้มในช่วง 1H23 ประเมินกำไรลดลง 23%YoY อย่างไรก็ตามในแง่การลงทุนเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมเพราะมองว่าผลประกอบการจะค่อยๆดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานได้ใหม่ที่ 6.65 บาท (19XPER’23E)

เป้ารายได้โต 10% ยังอยู่ในกรอบ

• TACC ตั้งเป้าเติบโตของรายได้ในปี 23 อยู่ที่ระดับ 10% ซึ่งจากการประชุมกับผู้บริหารวานนี้ทางผู้บริหารยังคงมั่นใจว่าการเติบโตดังกล่าวยังคงเป็นไปได้อยู่ โดยมีปัจจัยหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ของ 7-11 ไม่ว่าจะเป็นในประเทศ และต่างประเทศที่กัมพูชามีการเปิดสาขาเพิ่มต่อเนื่อง (ล่าสุดเดือน พ.ค. มีสาขาทั้งสิ้น 58 สาขา เพิ่ม 10 สาขาจากสิ้น 1Q23 ที่มี 48 สาขา) ส่วนที่ลาวคาดว่าภายในปีนี้จะมีเปิดอย่างน้อย 1 สาขา

• นอกจากการเติบโตตามการเปิดสาขาของ 7-11 แล้ว TACC ยังมีการขายสินค้าเข้าร้านอื่นๆด้วยไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟพันธ์ไทยหรือร้าน Lotus Go fresh

• สำหรับธุรกิจอาหารเสริมและความงามหลังจากเข้าซื้อ HIP มาในช่วงปลาย 1Q23 แนวโน้มในปี 23 อาจจะยังขาดทุนอยู่ โดยผู้บริหารคาดว่ารายได้จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 24 ที่มีรายได้ประมาณ 100 ลบ.

• ส่วนการลงทุนใน TCI ในการศึกษาถึงการลงทุนในธุรกิจกัญชงกัญชา ล่าสุดทาง TACC มีแผนจะขายหุ้นดังกล่าวภายใน 1H24 หลังจากแนวโน้มธุรกิจกัญชงกัญชาไม่สดใส ซึ่งทำให้ในช่วง 1Q23 รับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนเข้ามากว่า 2 ล้านบาท (และคาดว่าจะรับรู้ขาดทุนไตรมาสละ 1-2 ล้านบาทจนกว่าจะขายได้)

**2Q23 แนวโน้มดีขึ้นจาก 1Q23 **

• ผลประกอบการงวด 2Q23 คาดว่ารายได้จะเติบโตได้ทั้ง เมื่อเทียบกับ 2Q22 และ 1Q23 จากผลดีข้างต้น รวมถึงการเปิดตัวเครื่องดื่มรสชาติใหม่ที่ยังมีอย่างต่อเนื่อง ด้านกำไรขั้นต้นคาดว่าจะดีขึ้นจาก 1Q23 ได้หลังต้นทุนบางตัวเริ่มลดลง แต่หากเทียบกับปีก่อนยังต่ำกว่า เบื้องต้นเราประเมินรายได้และกำไรอยู่ที่ระดับ 423 ล้านบาท และ 57 ล้านบาท ตามลำดับ

• รวมกำไรสุทธิในช่วง 1H23 จะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 43% ของกำไรทั้งปีที่คาดไว้ที่ 231 ล้านบาท เราจึงปรับกำไรสุทธิทั้งปีลงจากเดิม 8% และทำให้ได้กำไรสุทธิใหม่ที่ 213 ลบ. (-10%YoY)

• เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” เช่นเดิมเพราะมองว่า TACC ยังมีโอกาสเติบโตได้ตามการเปิดสาขาใหม่ของทั้ง 7-11 และร้านกาแฟพันธ์ไทย รวมถึงการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยประเมินมูลค่าเหมาะสมได้ใหม่ที่ 6.65 บาท (19XPER’23E) จากเดิม 7.2 บาท