Pi STOCK UPDATE : GLOBAL (BUY : FAIR PRICE Bt19.90)

Published
07 July 2023
Share this article:

" คาดราคาสินค้าเหล็กที่ลดลงจะฉุดกำไรไตรมาส 2/23 "

เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/23 จะอยู่ที่ 770 ล้านบาท (-25%YoY, -13%QoQ) กำไรที่ร่วงลงแรงมีสาเหตุมาจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่คาดว่าจะติดลบ 10% จากราคาขายและอัตรากำไรสินค้าเหล็กที่ลดลง สาเหตุที่ฉุดราคาหุ้น GLOBAL ลง 33% YTD มาจาก SSSG ที่ดิ่งลงและการบริโภคในพื้นที่เกษตรที่ไม่สู้ดี ปัจจุบันหุ้นลงมาซื้อขายกันในระดับที่ต่ำกว่า -2S.D. at 21.8xPE’24E ซึ่งเรามองว่าสะท้อนปัจจัยลบระยะสั้นไปแล้ว โดยเรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐานที่ 19.90 บาท

คาดกำไรไตรมาส 2/23 จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ

• คาดรายได้ไตรมาส 2/23 จะอยู่ที่ 8.7 พันล้านบาท (-6%YoY, -3%QoQ) ฉุดจาก SSSG ที่คาดว่าจะติดลบ 10% YoY สืบเนื่องจากราคาขายเฉลี่ยของสินค้าเหล็กที่ลดลงตามราคาในตลาดเหล็ก ส่วน SSSG ที่ไม่รวมสินค้าเหล็กน่าจะทรงตัว YoY ได้ ถ้ามาดูในย่านท่องเที่ยว (สมุยและภูเก็ต) จะพบ SSSG ที่เป็นบวก YoY ในไตรมาส 2/23

• คาด GPM ไตรมาส 2/23 ที่ดีขึ้นเล็กน้อย QoQ เป็น 25.1% จาก 25.0% ในไตรมาส 1/23 หนุนจากการปรับราคาค้าปลีก 3%-5% ในเดือน มี.ค. 2023 แต่คาดว่าจะลดลง YoY จาก 26.4% เพราะอัตรากำไรในสินค้าเหล็กที่ลดลง และต้นทุนสินค้าที่สูงขึ้นจากเงินเฟ้อ

• คาดว่าอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายในไตรมาส 2/23 จะเพิ่มเป็น 15.7% จาก 14.3% ในไตรมาส 2/22 และ 14.3% ในไตรมาส 1/23 สืบเนื่องจากยอดขายที่ลดลงและค่าสาธารณูปโภคที่สูงขึ้น บวกกับต้นทุนจากการขยาย 2 สาขาใหม่ในช่วงไตรมาส

• ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการร่วมทุน (JV) ในไตรมาส 2/23 คาดว่าจะออกมาที่ 30 ล้านบาท (+246%YoY, -15%QoQ) หนุนจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง แต่อาจลดลง QoQ เพราะบาทแข็งเมื่อเทียบสกุลเงินอื่นในอาเซียน

SSSG เดือน มิ.ย. 2023 ยังติดลบ 12%-13%

• SSSG เดือน มิ.ย. 2023 ติดลบ 12%-13% ถือว่าต่ำกว่าเดือน เม.ย. และ พ.ค. 202 ที่ 7% สาเหตุจากราคาสินค้าเหล็กที่ลดลง

• บริษัทได้เปิดสาขาใหม่ไป 2 แห่งใน จ.ระนอง และ จ.ร้อยเอ็ด ในช่วงไตรมาส 2/23 ทำให้ปลายเดือน มิ.ย. 2023 บริษัทมีเครือข่ายสาขาในไทย 80 แห่ง และอีก 1 แห่งในกัมพูชา

• คาดกำไรปกติปี 2023 จะลดลง 9%YoY เพราะ 1) คาดว่า SSSG จะติดลบ 5% จากราคาขายสินค้าเหล็กที่ลดลง 2) กำไรสินค้าเหล็กที่หดตัว และ 3) ค่าใช้จ่ายการดำเนินงาน (OPEX) ที่สูงขึ้นจากการขยายสาขาใหม่ แต่คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวแข็งแกร่ง 12% YoY ในปี 2024 จากการขาดหายไปของปัจจัยกดดันเรื่องราคาเหล็ก และคาดว่า SSSG จะบวก 1.5%

ขาดปัจจัยบวกระยะสั้นแต่ราคาหุ้นไม่แพง

เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐานที่ 19.90 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 8.3%, TG 1.5%) อิง 32xPE’23E หรือใกล้เคียงค่าเฉลี่ยกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้านของไทย