MEGA (BUY : FAIR PRICE : Bt52.00) : คาดกำไรไตรมาส 3/23 หดตัวก่อนฟื้นในไตรมาส 4/23
เราคาดว่ากำไรปกติไตรมาส 3/23 จะอยู่ที่ 616 ล้านบาท (-8%YoY, -13%QoQ) กำไรที่ลดลง YoY และ QoQ เป็นผลจากฐานสูงปีก่อนที่กลุ่มสินค้าโภชนเภสัช (วิตามินและอาหารเสริม) มีอุปสงค์แข็งแกร่ง และการสูญเสียลูกค้ารายหลักในเมียนมาไป 1 ราย แต่คาดว่ากำไรไตรมาส 4/23 จะฟื้นตัวแข็งแกร่งเพราะเป็นช่วง high season เพราะผู้คนมักซื้อสินค้ากลุ่มโภชนเภสัชเป็นของขวัญให้แก่กัน มูลค่าหุ้นของ MEGA น่าดึงดูดแม้จะขึ้นไปแล้ว 15% ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ปัจจุบันเทรดกันที่ 16xPE’24 แต่ก็ยังต่ำกว่า -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปี เราจึงคงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 52.00 บาท
คาดกำไรไตรมาส 3/23 ลดลง YoY จากฐานสูง
• คาดรายได้ธุรกิจ Mega We Care (สินค้าแบรนด์) จะลดลงเหลือ 1.9 พันล้านบาท (-5%YoY, -5%QoQ) ในไตรมาส 3/23 เพราะการฟื้นตัวของกลุ่มสินค้าเภสัชไม่สามารถชดเชยกลุ่มสินค้าโภชนเภสัช (วิตามินและอาหารเสริม) ที่หดตัวลงจากฐานสูงเมื่อปีก่อนที่มีอุปสงค์แข็งแกร่งจากความต้องการของผู้บริโภคในการป้องกันโรคและรักษาสุขภาพ เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สำหรับ Mega We Care จะทรงตัวจากไตรมาสก่อนที่ 65.8% ในไตรมาส 3/23 ลดลงจาก 66.9% ใน
ไตรมาส 3/22 เพราะสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นใจ
• คาดรายได้ธุรกิจ Maxxcare (ธุรกิจจัดจำหน่าย) จะลดลงเหลือ 1.8 พันล้านบาท (-5%YoY, -3%QoQ) ในไตรมาส 3/23 สืบเนื่องจากแรงกดดันจากการสูญเสียลูกค้าสำคัญไป 1 ราย กอปรกับกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง ขณะที่คาดว่า GPM ของหน่วยธุรกิจนี้จะทรงตัวที่ 24.5% ในไตรมาส 3/23 ใกล้เคียงไตรมาส 2/23 หนุนจากการบริหารภายในที่ดีขึ้น
• คาดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหาร (SG&A) ต่อยอดขายจะเพิ่มเป็น 27.1% ในไตรมาส 3/23 จาก 27.0% ในไตรมาส 3/22 และ 26.0% ในไตรมาส 2/23 เพราะรายได้ที่ลดลง
**ภาพรวมปานกลางในปี 2023 **
เราคาดว่ายอดขายธุรกิจ Mega We Care จะทรงตัว YoY ในปี 2023 สืบเนื่องจากการฟื้นตัวของรายได้สินค้ายาตามใบสั่งแพทย์ บวกกับจำนวนคนไข้ในโรงพยาบาลที่ฟื้นตัวที่จะไปหักลบกับยอดขายสินค้าโภชนเภสัช (วิตามินและอาหารเสริม) ที่ลดลงจากฐานสูงปีก่อนที่มีอุปสงค์แข็งแกร่งเพราะผู้คนต้องการป้องกันโรคและดูแลสุขภาพ ขณะที่คาดว่ายอดขายของ Maxxcare จะลดลง 2%YoY ในปี 2023 เพราะเสียลูกค้าหลักไป 1 รายที่คิดเป็น 7% ของรายได้รวมของธุรกิจ Maxxcare ในปี 2022 และคาดว่ากำลังซื้อผู้บริโภคจะลดลงเพราะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในเมียนมา ด้วยเหตุนี้เราจึงคาดว่ากำไรปกติจะลดลง 3% YoY ในปี 2023 ทั้งนี้ เรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมการเติบโตระยะยาวหนุนจากการเปิดตัวสินค้าใหม่และอุปสงค์ต่อสินค้าเพื่อสุขภาพที่สูงขึ้น
แนะนำ "ซื้อ" ยังเป็นโอกาสในการสะสมหุ้น
มูลค่าพื้นฐานของเราที่ 52.00 บาท คำนวณด้วยวิธีคิดลดเงินสด (DCF) (WACC 10%, TG 3%) อิง 19xPE’24E คิดเป็นส่วนลด 30% ต่อค่าเฉลี่ยกลุ่มการแพทย์ไทย และใกล้เคียงค่าเฉลี่ยการซื้อขาย 5 ปี