Pi STOCK UPDATE : SCB (BUY : FAIR PRICE Bt122.00)
" มีประเด็นให้โตต่อเนื่อง "
คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 122 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 2/23 อยู่ที่ 1.19 หมื่นล้านบาท (+18% YoY, +8% QoQ) หลังจากเข้าร่วมการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ก.ค. เรายังคาดว่าการเติบโตของกำไรสุทธิจะเร่งตัวขึ้นเป็น 14%-15% ในปี 2023-24 จาก 5.5% ในปี 2022 มองว่าอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) จะเพิ่มเป็น 9.1%-10% ในปี 2023-24 หนุนจากกำไรสุทธิที่โตอย่างมั่นคงและการจัดการเงินทุนที่มีประสิทธิภาพ หุ้นมีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าดึงดูดในระดับ 5.7%-6.6% สำหรับปี 203-24 ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิครึ่งปีหลังจะโต 14% YoY หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่โตขึ้นเพราะการขยายตัวของอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) และสินเชื่อที่โตต่อเนื่อง
การประชุมนักวิเคราะห์
• SCBX คาด GDP ไทยจะโต 3.9% ในปี 2023 และ 3.6% ในปี 2024
• บริษัทคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทย ณ สิ้นปี 2023 จะอยู่ที่ 2.5% (ปัจจุบัน 2.0%) ด้วยการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ซึ่งจะช่วยกระตุ้น NIM ในครึ่งปีหลังให้สูงขึ้น และช่วยเป็นกันชนต่อค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่สูงขึ้นในปี 2023 ได้
• ขณะที่ทางธนาคารมีการตั้งสำรองหนี้ฯ มากขึ้นในไตรมาส 2/23 เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและคุณภาพสินเชื่อที่ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อรายย่อยที่ไม่มีประกัน ธนาคารได้ปรับเพิ่มแนวทางค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญปี 2023 เป็น 160-170bps (จาก 120-140bps) แต่ยืนยันว่าในครึ่งปีหลังจะต่ำกว่าครึ่งแรก
• อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (CIR) ในครึ่งหลังปี 2023 จะสูงกว่าครึ่งปีแรก ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการลงทุนด้าน IT ที่สูงขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อสนับสนุนกิจการในอนาคต โดยคาดว่า CIR ปี 2023 จะอยู่ที่ราว 40% กลาง ๆ
• SCBX ตั้งเป้า ROE ที่สูงขึ้นเป็น 13%-15% ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า หนุนจากการเติบโตของกำไรและการจัดการเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แนวโน้มการเติบโตคงเดิม
• เราปรับประมาณการการเติบโตของกำไรเพื่อสะท้อนถึง NIM ที่ดีกว่าคาดและสมมติฐานค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่สูงขึ้น โดยเรายังคาดว่ากำไรของ SCBX จะโตมากขึ้นในระดับ 14%-15% สำหรับปี 2023-24 เทียบ 5.5% ในปี 2022 ด้วย ROE ที่สูงขึ้นเป็น 9.1%-10% ในปี 2023-24
• กำไรสุทธิครึ่งปีแรกอยู่ที่ 2.29 หมื่นล้านบาท (+13% YoY), คิดเป็น 54% ต่อประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีของเราที่ 4.27 หมื่นล้านบาท (+14% YoY)
• ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิในครึ่งหลังปี 2023 จะโต 14% YoY หากเทียบกับ 1.74 หมื่นล้านบาทในครึ่งหลังปี 2022 ด้วยแรงหนุนจาก NII ที่สูงขึ้น
**คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 122 **
มูลค่าพื้นฐาน 122.00 บาท คำนวณด้วยวิธี GGM model (ROE 9.5%, TG 2%) อิง 0.85x PBV’23E หรือ -1.0SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี คำแนะนำซื้อสะท้อน 1) ภาพรวมการเติบโตของกำไรสุทธิที่มั่นคงและ ROE ที่สูงขึ้น 2) NIM ที่ขยายตัวจากดอกเบี้ยขาขึ้น 3) อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงสุดในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ 4) อานิสงส์ที่อาจได้รับจากกระแสดิจิทัลในภูมิภาค และ 5) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง