Pi STOCK UPDATE : BBL (BUY : FAIR PRICE Bt198.00)

Published
Share this article:

" แข็งแกร่งและปลอดภัย "

เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" ขณะที่เพิ่มมูลค่าพื้นฐานเป็น 198 บาท (จาก 190 บาท) พร้อมกับปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2023-25 ขึ้น หลัก ๆ เพราะอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่ดีกว่าคาด ทำให้มีสมมติฐานอัตรากำไรสุทธิที่แข็งแกร่งระดับ 40%/13%/11% ตามลำดับ แม้ในอนาคตจะมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนรออยู่ แต่พื้นฐานของ BBL ยังแข็งแกร่ง ด้วยสำรองหนี้ฯ และฐานเงินทุนขั้นที่ 1 ที่เพียงพอและแข็งแกร่งพร้อมรับมือกับสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงเร็วขึ้น ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิครึ่งหลังปี 2023 จะโต 27% YoY เมื่อเทียบครึ่งหลังปี 2022 หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง ขณะที่หุ้นมีมูลค่าซื้อขายน่าดึงดูดที่เพียง 0.6x PBV’23E หรือ -1SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี เราจึงยังเลือก BBL เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร

การประชุมนักวิเคราะห์

• แม้สินเชื่อครึ่งปีแรกจะโตไม่มากที่ 0.6% YTD (+1.7% YoY) แต่ BBL ยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อทั้งปี 2023 ที่ 4%-6% สืบเนื่องจากอุปสงค์ในกลุ่มสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเครือธนาคารระหว่างประเทศที่สูงขึ้น โดย BBL มองว่าสินเชื่อมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งขึ้นในปี 2024 หนุนจากการลงทุนเพิ่มเติมในภาคพลังงาน ฐานเก็บข้อมูล และยานยนต์

• แม้จะมีการขึ้นดอกเบี้ย แต่คาดว่า NIM ในครึ่งหลังปี 2023 จะอยู่ที่ราว 2.9% ใกล้เคียงกับครึ่งปีแรก เพราะคาดว่าลูกค้าจะหันไปฝากเงินที่ให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีต้นทุนดอกเบี้ยสูงขึ้น

• คุณภาพสินเชื่อยังอยู่ในระดับที่คุมอยู่ ธนาคารให้แนวทางอัตราส่วนหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวม (NPL ratio) ระดับเดิมที่ 3.5% (ไตรมาส 2/23: 2.9%) นอกจากนี้ ด้วยการที่มีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอแล้ว จึงคาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญในปี 2023 (ครึ่งแรกปี 2023: 130 bps) จะต่ำกว่า 124 bps ในปี 2022

• แม้ปี 2024 อาจมี NIM ที่ลดลง แต่ธนาคารมั่นใจว่ากำไรสุทธิและอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) จะดีขึ้นต่อเนื่อง หนุนจากการเติบโตของรายได้และสินเชื่อที่สูงขึ้น ขณะที่ยังคงอัตราส่วนการจ่ายเงินปันผลที่ 30%-40%

การเติบโตได้แรงหนุนจาก NIM ที่สูงขึ้นและการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่ลดลง

• เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2023/24/25 ขึ้น 14%/12%/12% YoY หลัก ๆ เป็นผลจาก NIM ที่สูงกว่าคาด ด้วยเหตุนี้เราจึงคาดว่ากำไรสุทธิปีดังกล่าวจะโต 39%/14%/11% ตามลำดับ หนุนจาก 1) NII ที่สูงขึ้น และ 2) ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลง เพราะธนาคารมีสำรองหนี้ฯ เพียงพอและทำการลดการตั้งสำรองหนี้ฯ ล่วงหน้าลงแล้ว

• ขณะที่ปรับเพิ่ม ROE ปี 2023/24/25 ขึ้นเป็น 7.8%/8.4%/8.8%

คงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยมูลค่าพื้นฐานที่สูงขึ้นเป็น 198 บาท

การปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานของเราสะท้อนการปรับเพิ่มประมาณการกำไรและ ROE ที่คำนวณด้วยวิธี GGM model ขึ้น (ROE 8.2%, TG 2%) มูลค่าพื้นฐานของเราอิง 0.7x PBV’23E หรือ -0.5SD ต่อค่าเฉลี่ย 10 ปี ส่วนคำแนะนำซื้อสะท้อน 1) งบดุลที่แข็งแกร่งพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น 2) แนวโน้มการเติบโตของกำไรสุทธิที่มั่นคง 3) NIM ที่สูงขึ้นตามดอกเบี้ยขาขึ้น และ 4) มูลค่าหุ้นที่ไม่แพง