กองทุนหุ้นโลกคุณภาพแนะนำจาก Pi Financial ES-GQG, KFGBRAND, KFGLOBAL

เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ประกาศลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.5% (Big Cut) เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดเศรษฐกิจถดถอย Fed ต้องการทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปหรือที่เรียกว่า Soft Landing อย่างไรก็ตาม มีความกังวลว่า Fed อาจดำเนินการล่าช้าเกินไป (Fed Behind The Curve) เศรษฐกิจสหรัฐอาจกำลังเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) แล้วในช่วงต้นก็เป็นได้

ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ: Soft Landing vs. Hard Landing

แม้จะมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป (Soft Landing) แต่ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถดถอยอย่างรุนแรง (Hard Landing) ยังคงมีอยู่ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง นักลงทุนควรเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวโดยปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม

กลยุทธ์การลงทุนในหุ้น Global Quality และ Global Defensive

ในสถานการณ์ที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง การลงทุนในหุ้น Global Quality และ Global Defensive จะเป็นทางเลือกที่มั่นคงกว่า เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีความสามารถในการรักษาผลประกอบการที่แข็งแกร่ง แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเศรษฐกิจสหรัฐเพียงตลาดเดียว ทำให้ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องแม้ว่าเศรษฐกิจในสหรัฐชะลอตัวลง

1. Global Quality

หุ้น Global Quality คือหุ้นของบริษัทที่มีคุณภาพสูง ซึ่งมีลักษณะเด่นในการสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอและบริหารจัดการทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ หุ้นกลุ่มนี้มีคุณสมบัติสำคัญ ได้แก่

• มีธุรกิจที่มั่นคง: บริษัทมีโมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่งและสามารถเติบโตในระยะยาว
• มีกำไรสม่ำเสมอ: สร้างกำไรได้ต่อเนื่องและมีอัตราการเติบโตที่คงที่
• มีหนี้สินต่ำ: มีการบริหารหนี้สินอย่างดี มีภาระหนี้สินต่ำ ทำให้ความเสี่ยงทางการเงินน้อยลง
• มีความได้เปรียบในการแข่งขัน: บริษัทมีความได้เปรียบด้านการแข่งขันผ่านแบรนด์หรือทรัพยากรที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น เทคโนโลยีหรือทรัพยากรมนุษย์

ตัวอย่างบริษัทในกลุ่มนี้คือ Apple, Microsoft, และ Johnson & Johnson ซึ่งมีประวัติการเติบโตที่แข็งแกร่งและสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการพอร์ตการลงทุนที่เน้นคุณภาพและความมั่นคงในระยะยาว

2. Global Defensive

Global Defensive คือหุ้นที่เน้นความมั่นคงในการลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนหรือภาวะตลาดผันผวน หุ้นกลุ่มนี้มักจะได้รับผลกระทบน้อยจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ และมักมีกระแสเงินสดที่มั่นคง

• ขายสินค้าและบริการที่จำเป็น: บริษัทที่ผลิตสินค้าหรือบริการจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร ยา และสาธารณูปโภค ที่ผู้บริโภคยังคงต้องใช้ไม่ว่าสภาวะเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร
• มีกระแสเงินสดมั่นคง: รายได้ของบริษัทในกลุ่มนี้มักมีความสม่ำเสมอ แม้ในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา
• จ่ายปันผลสูง: มักจ่ายเงินปันผลในอัตราที่ดี ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มองหาความเสี่ยงต่ำและรายได้ปันผล

ตัวอย่างหุ้นที่อยู่ในกลุ่มนี้คือ Procter & Gamble, Coca-Cola, และบริษัทในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการสร้างพอร์ตที่เน้นความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว

กองทุนหุ้นโลกแนะนำจาก Pi Financial

1. ES-GQG

เน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก ซึ่งได้รับการคัดเลือกตามเกณฑ์ที่เข้มงวด และมีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืน เช่น

• NVIDIA – บริษัทผู้ผลิต Semiconductor ที่เคยเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกมาแล้ว
• Meta – เจ้าของ Social Media ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และ Instagram
• Petrobras – บริษัทพลังงานชั้นนำในบราซิล
• Google - เจ้าตลาด Search Engine และการโฆษณาออนไลน์
• Microsoft – ยักษ์ใหญ่ด้านบริการซอฟท์แวร์ และ Cloud

ข้อมูลพื้นฐาน

• บริหารจัดการโดย: บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) (Eastspring Asset Management)
• ประเภทกอง: Global Equity
• ระดับความเสี่ยง: 6
• กองแม่ (Feeder Fund): Wellington Global Quality Growth Fund
• นโยบายค่าเงิน: ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
• ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee): 1.5%
• ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน (Management Fee): 1.6% ต่อปี
• ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Minimum buy): 1 บาท
• รายละเอียดเพิ่มเติม: หนังสือชี้ชวน

2. KFGBRAND

ลงทุนในแบรนด์ระดับโลกที่มีความมั่นคง มีชื่อเสียง และได้รับการยอมรับในตลาดโลก เช่น

• Microsoft - ยักษ์ใหญ่ด้านบริการซอฟท์แวร์ และ Cloud
• Procter & Gamble - บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคระดับโลก มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสุขภาพ ความงาม การดูแลบ้านและส่วนตัว เช่น แบรนด์ Pantene, Downy, OLAY เป็นต้น
• Philip Morris International - บริษัทผลิตบุหรี่ระดับโลก มีผลิตภัณฑ์ชื่อดังอย่าง Marlboro และกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีไร้ควัน
• Reckitt Benckiser - บริษัทผลิตสินค้าสุขอนามัยและยารักษาโรคที่มีแบรนด์ชั้นนำ เช่น Dettol, Durex และ Nurofen
• Visa - บริษัทด้านการเงินและเทคโนโลยีทางการชำระเงิน ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและเดบิตระดับโลก

ข้อมูลพื้นฐาน

• บริหารจัดการโดย: บลจ.กรุงศรี (KSAM)
• ประเภทกอง: Global Equity
• ระดับความเสี่ยง: 6
• กองแม่ (Feeder Fund): Morgan Stanley Investment Funds - Global Brands Fund
• นโยบายค่าเงิน: ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
• ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee): 1.5%
• ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน (Management Fee): 0.7% ต่อปี
• ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Minimum buy): 500 บาท
• รายละเอียดเพิ่มเติม: หนังสือชี้ชวน

3. KFGLOBAL

เน้นลงทุนในหุ้นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งทางการเงินและอยู่ในอุตสาหกรรมที่ทนทานต่อความผันผวน เช่น

• Apple - บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำที่ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์ เช่น iPhone, iPad, Mac
• Microsoft - ยักษ์ใหญ่ด้านบริการซอฟท์แวร์ และ Cloud
• Google - เจ้าตลาด Search Engine และการโฆษณาออนไลน์
• Amazon - บริษัทอีคอมเมิร์ซและเทคโนโลยีระดับโลกที่เน้นการค้าปลีกออนไลน์, บริการคลาวด์ (AWS) และการสตรีมมิ่งวิดีโอผ่าน Prime Video
• Berkshire - บริษัทการลงทุนที่บริหารโดย Warren Buffett มีการลงทุนในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ประกันภัย, สาธารณูปโภค, และผู้บริโภค

ข้อมูลพื้นฐาน

• บริหารจัดการโดย: บลจ.กรุงศรี (KSAM)
• ประเภทกอง: Global Equity
• ระดับความเสี่ยง: 6
• กองแม่ (Feeder Fund): BlackRock Global unconstrained Equity Fund
• นโยบายค่าเงิน: ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุนรวม
• ค่าธรรมเนียมขาย (Front-end Fee): 1.5%
• ค่าธรรมเนียมการจัดการกองทุน (Management Fee): 0% ต่อปี
• ลงทุนขั้นต่ำครั้งแรก (Minimum buy): 500 บาท
• รายละเอียดเพิ่มเติม: หนังสือชี้ชวน

โปรโมชันพิเศษ สำหรับกองทุน ES-GQG, KFGBRAND, KFGLOBAL

ซื้อกองทุน ES-GQG, KFGBRAND, KFGLOBAL ที่ Pi Financial ครบตามเงื่อนไขที่กำหนด รับ iPhone 16 Pro Max 256 GB มูลค่า 56,900 บาท

ลงทุนสะสมได้ตั้งแต่ 16 ก.ย. - 15 ธ.ค. 2567

ศึกษารายละเอียดโปรโมชันเพิ่มเติม

ลงทุนกองทุนหุ้นโลกแนะนำจาก Pi Financial และ กองทุนรวมจาก 18 บลจ. ชั้นนำได้แล้ววันนี้ที่ Pi Financial

คำเตือน

• ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
• ติดต่อขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บริษัท
• เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด